ไอซ์แลนด์ เจ๊า ฝรั่งเศส
ไอซ์แลนด์ เซอร์ไพรส์เปิดบ้านเจ๊า ทีมชาติฝรั่งเศส 2-2 หยุดสถิติชนะรวด “ตราไก่” ไว้ที่ 3 นัด ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่สนามเลาการ์ดัลส์ว็อลเลอร์
จังหวะสำคัญ
ฝรั่งเศส ลงสนามโดยไม่มี คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่บาดเจ็บข้อเท้า ทำให้กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ต้องปรับทัพและให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ได้โอกาสลงประเดิมสนามเป็นตัวจริงในแดนหน้าในเกมฟุตบอลโลกนัดนี้
โอกาสทองของฝรั่งเศสเกิดขึ้นในช่วง 20 นาทีแรก ฝรั่งเศสมีโอกาสได้ประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ถูกเซฟจากระยะเผาขน และจังหวะวอลเลย์ที่ถูก เอเลียส ราฟน์ โอลาฟส์สัน ปฏิเสธไว้ได้
นาทีที่ 39 กลายเป็นเจ้าบ้านที่พลิกขึ้นนำจากจังหวะลูกตั้งเตะ วิคเตอร์ พาลส์สัน กองกลางที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม พุ่งเข้าชาร์จบอลจากลูกเปิดฟรีคิกต่ำๆ ที่เสาแรก ท่ามกลางความผิดพลาดในการจัดการลูกตั้งเตะของแนวรับฝรั่งเศส ทำให้ไอซ์แลนด์ขึ้นนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาต่อครึ่งหลัง ฝรั่งเศส เร่งเครื่องในครึ่งหลังและสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วในช่วงกลาง โดยนาทีที่ 63 คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แก้ตัวได้สำเร็จ หลังจากพลาดโอกาสไปหลายครั้ง โดยเขาได้บอลและซัดด้วยเท้าขวา ส่งบอลพุ่งเสียบมุมล่างของประตูอย่างเฉียบคม ตีเสมอให้ฝรั่งเศสเป็น 1-1
นาทีที่ 68 ทัพ “ตราไก่” พลิกสถานการณ์ขึ้นนำในอีก 5 นาทีต่อมา จากการประสานงานของ มักเนส อาคลิอูเช่ ตัวสำรองที่เปิดบอลเรียดจากด้านขวาเข้าสู่กรอบเขตโทษอย่างแม่นยำ และเป็น ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่สอดเข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายจ่อๆ ที่เสาสอง เป็นประตูแรกของเขาในนามทีมชาติฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส ดีใจไม่นานเกมกลับมาเสมออีกครั้งในนาทีที่ 70 ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังได้ใจกับการพลิกนำ ไอซ์แลนด์ก็ตอบโต้กลับอย่างรวดเร็วเกือบจะในทันที คริสเตียน ฮลีนส์สัน หลุดกับดักล้ำหน้าจากการจ่ายทะลุช่องของ อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน ก่อนที่ ฮลีนส์สัน จะบรรจงยิงด้วยเท้าขวาเต็มแรง บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกมด้วยการเสมอกัน 2-2 ทำให้ฝรั่งเศสหยุดสถิติชนะรวดใน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไว้ที่ 3 นัด แต่ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม D ต่อไป โดยมี 10 คะแนน ส่วนไอซ์แลนด์เก็บแต้มสำคัญในบ้านได้สำเร็จ มี 4 คะแนนจาก 4 นัด ทำให้พวกเขายังมีความหวังเล็กน้อยในการลุ้นเข้ารอบเพลย์ออฟ
สถิติสำคัญ
ฝรั่งเศส มีอัตราการครองบอลสูงสุดในบรรดาแมตช์เยือนที่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะคู่แข่ง ซึ่งอยู่ที่ (69.7 %) ถือเป็นครั้งแรกของพวกเขาที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เคยมีสถิติใกล้เคียงแบบนี้มาแล้วในวันที่ 6 กันยายน 2013 ที่พบกับจอร์เจีย (70.6% เสมอ 0-0)
สรุปผลงาน
หลังจบเกม ดิดิเย่ร์ เดส์ชอง ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส กล่าวว่า “เรานำอยู่ 2-1… สิ่งที่ทำให้ผมโกรธก็คือวิธีที่เราเสียประตูที่สองไป เราเปิดพื้นที่มากเกินไป เรายืนตำแหน่งสูงเกินไป ทั้งที่เราเพิ่งจะยิงประตูได้แท้ ๆ”
“เรายืนตำแหน่งได้แย่มาก และมันเกิดขึ้นเร็วมากหลังจากที่เราได้ประตูนำไปไม่กี่นาที มันอาจจะเป็นความประมาทเลินเล่ออยู่บ้าง แต่มันไม่ควรเกิดขึ้นกับเรา มันทำให้เราพลาดโอกาสที่จะคว้าชัยชนะในเกมนี้ไป”
จากนั้น เดส์ชองส์ ยังแสดงความไม่พอใจกับการตัดสินของผู้ตัดสินในประตูแรกที่ไอซ์แลนด์ทำได้ในนาทีที่ 39 ด้วย “ประตูแรก ไม่ถูกต้อง ผมดูภาพช้าหลายครั้งแล้ว มันมีจังหวะฟาวล์ วิคเตอร์ พาลส์สัน เข้าปะทะ มานู โกเน่ สำหรับประตูแรก”
“ผมจะไม่สรุปผลการแข่งขันทั้งหมดจากเรื่องนี้ แต่การตัดสินที่ไม่ถูกต้องนี้ทำให้พวกเขานำ 1-0 ในครึ่งแรก ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่มีโอกาสทำประตูที่ชัดเจนเลย”
“เราควบคุมเกมได้อย่างสมบูรณ์ ไอซ์แลนด์มีโอกาสยิงเข้ากรอบ 2 ครั้ง และได้ 2 ประตู ในครึ่งแรกเรายังขาดความดุดัน เราเล่นแข็งทื่อไปหน่อย แต่ในครึ่งหลังเราเริ่มเล่นได้อย่างอิสระมากขึ้น จนกระทั่งเราได้ประตูนำ แต่โชคร้ายที่เราทำผิดพลาดในการตั้งรับ” และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ ฟุตบอลโลก 2026 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ฟุตบอลโลก 2026 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
